| About Nishikawa Tachaplalert Cooper Ltd. |
| บริษัท นิชิกาว่า เตชาพลาเลิศคูปเปอร์ เป็นบริษัท ในเครือของ บริษัท นิชิกาว่า รับเบอร์ จำกัด ที่สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น,ก่อตั้งเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ปี ค.ศ.1995 ณ เขตอุตสาหกรรมสุรนารี จังหวัดนครราชสีมาและเริ่มเดินสายการผลิตครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนในปี ค.ศ.1996 ภายใต้ชื่อบริษัทในขณะนั้นว่า Nishikawa Tachaplalert Rubber Co.,Ltd. หรือ เรียกชื่อบริษัทฯ ย่อๆว่า NTR โดยนำเอาอักษรนำของแต่ละตัวมาประกอบกัน แต่ในเวลาต่อมาเมื่อปี ค.ศ.2011 ได้มีการเพิ่มผู้ถือหุ้น จากบริษัท คูปเปอร์ สแตนดาร์ด โอโตโมทีฟ จำกัด จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Nishikawa Tachaplalert Cooper Ltd. ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา |
| NTR มีชื่อเล่นว่า “Fightin’Elephants” ซึ่งหมายถึง ทุกคนจะทำงานด้วยความขยันขันแข็ง และมีจุดมุ่งหมายด้วยพลังอันแกร่งกล้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของช้างในประเทศไทย |
| จัดตั้งเมื่อ วันที่ 2 สิงหาคม 2538 |
| เงินทุน 630,000,000 บาท |
| สัดส่วนการลงทุน | |
| NISHIKAWA RUBBER CO.,LTD. | 77.70% |
| Cooper Standard Automotive Inc. | 20.00% |
| MARUBENI THAILAND CO.,LTD. | 0.71% |
| Inter Group Holding Company Limited. | 1.59% |
| ถ้อยแถลงนโยบายคุณภาพ IATF16949 |
| ผลิตงานที่สร้างความพอใจให้กับลูกค้า |
| 1. ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งโดยเพิ่มระดับความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง |
| 2. ในการนี้จะต้องมีการปรับปรุงระบบการบริหารคุณภาพอย่างต่อเนื่อง |
| 3. กำหนดเป้าหมายคุณภาพไว้ในแผนธุรกิจ |
| 4. นโยบายคุณภาพจะถ่ายทอดให้กับพนักงาน NTR ทุกคน |
| 5. ทบทวนว่านโยบายคุณภาพเหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกหรือไม่ |
| การพัฒนาเป้าหมายคุณภาพและสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันด้านคุณภาพด้วยการ “ไม่รับ ไม่ผลิต ไม่ปล่อยชิ้นงานเสีย “ อย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มระดับ ความพึงพอใจของลูกค้า |
| นโยบายมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2563) |
| บริษัท นิชิกาว่า เตชาพลาเลิศ คูปเปอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้พนักงานทุกคนของบริษัทได้รับความ |
| เคารพสิทธิและคุ้มครองให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน ตามข้อกำหนดมาตรฐานแรงงานไทยและระเบียบอื่นที่ เกี่ยวข้อง และจะปรับปรุงการดำเนินงานด้านแรงงานอย่างต่อเนื่อง |
| นโยบายนี้จะได้รับการนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประสิทธิผล และจะทบทวนปรับปรุง นโยบายให้เหมาะสมเสมอ |
| นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน |
| เพื่อให้การดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท นิชิกาว่า เตชาพลาเลิศ คูปเปอร์ จำกัด |
| จึงกำหนดนโยบาย เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ในการทำงาน |
| 1. ความปลอดภัยในการทำงานถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบอันดับแรกในหารทำงานของพนักงานทุกคน |
| 2. บริษัท จะปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ในการทำงานทุกฉบับ |
| 3. บริษัท จะสนับสนุนส่งเสริมให้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้พนักงานปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย |
| 4. บริษัท จะส่งเสริม สนับสนุนให้มีกิจกรรมความปลอดภัยต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นจิตสำนึกของพนักงาน เช่น การอบรม การประชาสัมพันธ์ การประกวดแข่งขันด้าน ความปลอดภัย เป็นต้น |
| 5. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับจะต้องกระทำตนให้เป็นตัวอย่างที่ดี เป็นผู้นำอบรม ฝึกสอน จูงใจให้พนักงานปฏิบัติงานด้วยวิธีที่ปลอดภัย |
| 6. พนักงานทุกคนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนทรัพย์สินของทางบริษัท เป็นสำคัญตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน |
| 7. พนักงานทุกคนต้องดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ปฏิบัติงาน |
| 8. พนักงานทุกคนปฏิบัติตนด้วยการ “หยุด เรียก รอ” ตามข้อกำหนดเมื่อเกิดความผิดปกติ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานของความปลอดภัย |
| 9. พนักงานทุกคนต้องให้ความร่วมมือในโครงการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยของบริษัท และมีสิทธิเสนอความคิดเห็นในการปรับปรุงสภาพการทำงานและวิธีการทำงานให้ปลอดภัย |
| NRC President Message |
 |
| บริษัทของเราก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ.1949 ซึ่งนโยบายของบริษัทคือ “วิธีแห่งความถูกต้อง (Seido) ความสามัคคี (Wa) ความคิดสร้างสรรค์ (Dokuso) ความปลอดภัย (Anzen)” บริษัทเติบโตมาถึงปัจจุบันโดยเน้นในด้านผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนประกอบยานยนต์เป็นหลัก และเนื่องจากการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ในปีค.ศ. 1980 เป็นต้นมา เราได้มีการขยายธุรกิจให้ไปเติบโตยังต่างประเทศ | ||
| ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทำให้การดำเนินการเพื่อลดภาระด้านสิ่งแวดล้อมกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เราควรต้องมีการทบทวนเทคโนโลยี วิธีการทำงานในปัจจุบัน | ||
| และตอนนี้ คือ เวลาที่เราต้องทำการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีเดิม วิธีการทำงานที่ใช้อยู่ และเทคโนโลยีในการรีไซเคลให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งแสดงศักยภาพ “ความยืดหยุ่นและความมีชีวิตชีวา” ของพนักงานทุกคนออกมาให้เห็น และผลลัพธ์นี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรานำเอา “ความวางใจ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย” ไปสู่ลูกค้าที่อยู่ทั่วโลกได้ ปัจจุบัน ในแผนธุรกิจระยะกลางและระยะยาว เราได้มีการประกาศเป้าหมายระยะกลางคือ ปี 2025 ว่า “ลักษณะหรือสภาวะที่สมควรเป็น” และเราจะมุ่งหมายที่จะทำให้เกิด “ลักษณะหรือสภาวะที่ต้องการจะเป็น” ในปีค.ศ. 2030 | ||
| ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการทำให้อนาคตของบริษัทที่เราคาดหวังไว้มีความชัดเจน และกลั่นกรองว่าปัญหาใดที่ต้องได้รับการแก้ไข พร้อมทั้งดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา สำหรับ SDGs และ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) ซึ่งเป็นเป้าหมายร่วมกันของสังคมในระดับนานาชาตินั้น เราก็ดำเนินการอย่างแข็งขันโดยมีความช้าหรือเร็วแตกต่างกันไป | ||
| ในอีกด้านหนึ่ง ก็ได้มีการจัดตั้งโครงสร้างองค์กรในการบริหารงานขึ้นใหม่โดยยืนอยู่บนพื้นฐานในการปฏิวัติวิธีการทำงาน และการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วว่องไว ซึ่งได้เริ่มใช้ตั้งแต่ปีใหม่ ลักษณะองค์กรที่มีโครงสร้างแบบ 6 หน่วยงานกลางนี้ จะมีการปรับเปลี่ยนให้ขนาดของแต่ละหน่วยงานกลางมีขนาดเล็กลงเล็กน้อย โดยแบ่งย่อยออกมาเป็น 10 หน่วยงานกลาง เพื่อเน้นความละเอียดในการใช้ทักษะความเชี่ยวชาญ และให้มีการแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และผู้จัดการทั่วไปที่มีความสำคัญในการปฏิบัติงานของหน่วยงานนั้น จะถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ในการกำกับดูแลประสานงาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้องค์กรมีความทันสมัยคล่องตัว และผลักดันการดึงเอาบุคลากรมาดำเนินงานโดยไม่จำกัดว่าเป็นเพศใด เป็นการเพิ่มให้องค์กรมีความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น | ||
| ต่อจากนี้เป็นต้นไป ผมต้องการให้เครือบริษัทนิชิกาว่าอุตสาหกรรมยางเน้นในเรื่องของ “ความปลอดภัย” มาเป็นเงื่อนไขอันดับแรก และทุกฐานการผลิตทั่วโลก (7 ประเทศรวมประเทศญีปุ่น และ 16 โรงงาน) ต้องดำรงอยู่ใน “วิถีแห่งความถูกต้อง” ที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นพวกพ้องเราในประเทศใดต่างก็ต้องมี “ความสามัคคี” กลมเกลียวกัน และอยากให้ทุกคนเสนอ “ความคิดสร้างสรรค์” เพื่อเดินหน้าไปสู่ยุคสมัยใหม่ที่จะมาถึง | ||
| และหลังจากนี้ไป ผมจะตอบรับความคาดหวังของท่านผู้มีส่วนได้เสียจากทุกแห่งทั่วโลกครับ | ||
| NTR President Message |
 |
| ขอบคุณทุกท่านที่คอยให้การสนับสนุนบริษัทนิชิกาว่า เตชาพลาเลิศ คูปเปอร์มาตลอด เป็นเวลากว่า 25 ปีแล้วที่บริษัทของเราได้มีการตั้งฐานการผลิตในราชอาณาจักรไทยในเขตจังหวัดนครราชสีมา โดยมีการจัดจำหน่ายยางขอบประตูรถยนต์ (Weather stripping) ให้กับลูกค้าทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและในต่างประเทศทั่วโลก |
||
| เนื่องจากปัจจุบัน ได้มีการประกาศการสิ้นสุดวิกฤตการระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด 19 ซึ่งหมายความว่าเราได้เข้าสู่ยุคแห่งการใช้ชีวิตร่วมกับโควิดอย่างปกติแล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังคงเผชิญกับปัญหาความต้องการวัตถุดิบต่างๆจนเกิดการขาดความสมดุลย์นี้ก็อยู่เช่นเดิม แต่ถึงแม้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งยังไม่อาจคาดเดาสภาวะแวดล้อมต่างๆรอบข้างรวมถึงสถานการณ์ในอนาคตได้ก็ตาม แต่ในวิกฤติเช่นนี้นี่เอง เป็นโอกาสให้เราย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น โดยให้พนักงานร่วมแรงร่วมใจกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว ให้ความสำคัญกับด้านความปลอดภัยและคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่งในการดำเนินธุรกิจต่อไป | ||
| เราพร้อมน้อมรับฟังคำชี้แนะและรับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสียเช่น ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ซัพพลายเออร์ พนักงานและครอบครัว โดยมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเติบโตเป็นผู้จำหน่ายยางขอบประตูรถยนต์ (Weather stripping) อันดับหนึ่งของภูมิภาคอาเซียน และถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ แต่เราก็หวังจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างให้เศรษฐกิจไทยมีความเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น | ||